ทำไมต้องเกรี้ยวกราด

ทำไมต้องเกรี้ยวกราด

#ทำไมต้องเกรี้ยวกราด เเฮชเเทคอารมณ์ขันหยอกล้อทีเล่นทีจริง เพื่อแสดงอารมณ์และเจตนารมณ์บางอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่มักออกมาในรูปแบบน่ารักๆ เชิง พูดเเซวเล่นเหมือนเด็กงอแงไม่ได้ของเสียมากกว่า   แต่เด็กที่งอแงร้องแสดงพฤติกรรมความไม่พอใจนั้น รักไม่ใช่รูปแบบของความเกรี้ยวกราดที่เเสดงออกมาข้างต้น เพราะนั่นอาจเป็นวิธีระบายความโกรธหรือความคับเเค้นใจบางอย่างซึ่งเป็นอารมณ์ที่ควบคุมได้ยากในเด็กเล็ก   การร้องแสดงความไม่พอใจในเด็กเล็ก เป็นพัฒนาการปกติที่เด็กกำลังเรียนรู้การควบคุมตัวเอง โดยพบบ่อยในช่วง2-3ปีเเรก พบว่าร้อยละ 50 ถึง 80 มีการร้องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และจะค่อยค่อยลดลงจนเมื่ออายุ 4ปี โดย ส่วนใหญ่การร้องแบบอาละวาดนั้นจะไม่เกิน 5 นาที ไม่ใช่เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องวิตกแต่อย่างใด   แต่หากเด็กๆที่อายุมากกว่า4ปี ยังคงมีพฤติกรรมดังนี้อยู่ อาจส่งผลต่อการพัฒนาการ การควบคุมอารมณ์ในอนาคตได้ค่ะ ร้องตั้งแต่3 ครั้งขึ้นไปต่อวันและแต่ละครั้งร้องนานเกิน 15 นาที มีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วยเช่นมีปัญหาการนอนปัญหาการเรียนหรือมีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อน ทำลายข้าวของ ทำร้ายตนเองหรือทำร้ายผู้อื่นร่วมด้วย ✏️เเนวทางป้องกันและเเก้ไข -การเเจ้งล่วงหน้า หลายครั้งที่ให้เด็กหยุดการทำกิจกรรมกระทันหัน อาจกระตุ้นให้เด็กไม่พอใจ ควรแจ้งเตือนก่อนถึงเวลาให้เด็กหยุดกิจกรรมนั้นจริงๆ -เปิดโอกาสให้เด็กได้ตัดสินใจและในตัวเลือกนั้นพ่อเเม่ต้องยอมรับได้ -หลีกเลี่ยง สิ่งที่ทำให้เด็กหงุดหงิดหากเป็นสิ่งไม่จำเป็นเช่นกิจกรรมเกินความสามารถของเด็กหากเด็กเริ่มหงุดหงิดให้บ่ายเบี่ยงไปทำอย่างอื่นแทน -ให้ความสนใจทางบวกแก่เด็กเสมอ เช่นชมเชยเมื่อเขามีพฤติกรรมที่ดีเพื่อเป็นแรงจูงใจให้เขาทำพฤติกรรมที่ดีมากขึ้น -พ่อแม่ควรนิ่งสงบไม่ควรตะโกนหรือแสดงอาการโกรธให้เด็กเห็นเพราะจะยิ่งทำให้เด็กอาละวาดมากขึ้น -เมื่อเด็กสงบแล้ว อย่าปล่อยผ่าน ให้เข้าไปคุยกับเด็กปกติ หากเป็นเด็กโตอาจพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวิธีการแก้ไขในครั้งต่อไป   แม้การร้องแสดงความไม่พอใจจะเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่ปกติ…

ทำยังไงดีคะ? ลูกร้องไห้ไม่หยุดเลยเวลาไปโรงเรียน

ทำยังไงดีคะ? ลูกร้องไห้ไม่หยุดเลยเวลาไปโรงเรียน

ทำยังไงดีคะ? ลูกร้องไห้ไม่หยุดเลยเวลาไปโรงเรียน   อีกหนึ่งปัญหาหนักอกของคุณแม่ ที่เหมือนใจจะขาดไปด้วยเมื่อต้องไปส่งลูกๆ เข้าโรงเรียน แต่ลูกตัวน้อยของคุณกลับร้องไห้ไม่หยุด ทั้งๆที่เมื่อวานก็ยังโอเคอยู่เลย   เป็นเรื่องธรรมดาของความคุ้นชินของเด็กๆ ที่ต้องห่างพ่อห่างแม่ หรือสถานที่อยู่จากบ้านมาอยู่ที่โรงเรียน จากพ่อแม่มาเป็นครู หรือจากพี่เลี้ยง คุณตายายมาเป็นเพื่อน บรรยากาศที่ไม่คุ้นชิน อาจสร้างความหวาดกลัวเล็กๆ ขึ้นมาในใจของเด็กๆได้ คุณพ่อคุณแม่ อาจเริ่มจากการพาลูกไปสร้างความคุ้นเคยกับโนงเรียนในสถานที่ต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น ไปสนามเด็กเล่น จะได้เล่นเครื่องเล่นสนุกๆกับเพื่อนใหม่ๆ     พูดถึงข้อดีของโรงเรียน เช่น หากลูกว่าลูกว่ายน้ำ อาจพูดกับลูกว่าที่โรงเรียนนี้มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่หนูชอบด้วยนะ หรืออาจเป็นชุดยูนิฟอร์มตัวสวยที่เหมาะกับหนูมากๆ   การให้เด็กๆ พักผ่อนให้เพียงพอและได้รับอาหารที่เหมาะสมก่อนมาโรงเรียน เพราะการอดนอนอาจส่งผลต่อารมณ์ของเด็กๆ ที่อาจทำให้เริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างไม่สดใสนัก   สร้างบรรยากาศให้ลูก บางครั้งลูกอาจยังไม่ชินหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยกับสถานที่ใหม่ๆ ของใช้ส่วนตัวของลูก อย่างกระติกน้ำ กล่องดินสอ จะลดความไม่คุ้นชินลงไปได้   ติดตามข่าวสาร ทางโรงเรียนมักมีกิจกรรม หรือข่าวต่างๆ ภายในโรงเรียนที่อาจเป็นประโยชน์โดยตรงหรือทางอ้อมให้ลูกๆ ได้ เช่นเพื่อการชักจูงให้ลูกอยากมาโรงเรียน   ทำความรู้จักกับครูประจำชั้นเรียนและผู้ปกครองคนอื่น เพื่อฝากฟังดูแล สอบถามพฤติกรรมหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เพื่อช่วยกันแก้ไข…

เพิ่มความมั่นใจให้ลูกน้อยด้วยเทคนิคง่ายๆ

เพิ่มมั่นใจให้ลูกน้อยด้วยเทคนิคง่ายๆ

เพิ่มมั่นใจให้ลูกน้อยด้วยเทคนิคง่ายๆ   เด็กสมัยนี้การแสดงออกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มสังเกตุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเด็กอายุ 4-5  ขวบ ทำให้เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดระหว่างเด็กขี้อาย กับเด็กที่กล้าแสดงออก เพราะเป็นวัยที่เด็กๆเริ่มเข้าโรงเรียนและช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว แต่เมื่อเด็กโตขึ้น ความขี้อายก็จะเริ่มลดลง และกล้าคิด กล้าทำ ในเรื่องต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้นเอง วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเด็กๆ กันค่ะ   เริ่มต้นด้วยเรื่อยง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการให้ลูกได้เลือกหยิบเสื้อผ้าใส่เอง โดยอาจจะกำหนดเป็นธีมง่ายๆว่า วันนี้คุณพ่อคุณแม่จะพาไปสวนน้ำ ลูกอยากใส่ชุดอะไรไปสวนน้ำกับคุณแม่ดีคะ ซึ่งเรื่องใกล้ตัวแบบนี้จำช่วยให้น้องสามารถตัดสินใจเรื่องในอนาคตได้   ให้อิสระกับลูก พูดคุยกับลูกบ่อยๆ ว่าเขาอยากทำอะไร ลองพาเขาไปทำในสิ่งที่เขาอยากทำ  เพราะบางครั้งการที่ลูกขี้อาย อาจเพราะเขารู้สึกไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ดังนั้นการปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่อยากทำ จะช่วยให้เขาค่อยๆกล้าแสดงออกมาขึ้น แต่ก็ไม่ใช่การตามใจไปซะทุกเรื่องนะคะ แนะนำตัวเอง  เด็กหลายคนขี้อายเพราะไม่รู้จะทำตัวยังไงเมื่อต้องเจอคนที่ไม่รู้จัก การหัดให้เขาทักทายด้วยการสวัสดี จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยทำลายกำเเพงความขี้อายนั้นลงได้ หรือหัดให้ลูกพูดโต้ตอบกับคนอื่นๆ เช่นเมื่อถูกถามว่าหนูชื่ออะไร ให้หนูตอนชื่อตัวเอง และลองถามว่าเค้าชื่ออะไรกลับบ้าง เวลาที่ลูกโต้ตอบกับคนอื่นได้ ก็ช่วยให้เขาไม่เกร็งเวลาต้องเจอคนแปลกหน้าใหม่ๆ ฝึกลูกให้รู้จักรับผิดชอบการเเบ่งปันหน้าที่รับผิดชอบง่ายๆ เข่น การทิ้งขยะ ช่วยคุณแม่เก็บจาน และกล่าวชมเชย ให้กำลังใจแล้ว จะช่วยให้ลูกรู้สึกภูมิใจในตัวเอง เมื่อเด็กรู้สึกมีความมั่นใจในการทำอะไรแล้ว ก็ค่อยๆฝึกให้เขาทำเช่นนีเนอกบ้านบ้าง เช่นที่โรงเรียน…

สอนทำการบ้าน หลังเลิกเรียน

ตอนเด็กเรียนโรงเรียนอะไรก็ได้ ตอนโตค่อยย้ายดีจริงไหม!?

ตอนเด็กเรียนโรงเรียนอะไรก็ได้ ตอนโตค่อยย้ายดีจริงไหม!? เด็กๆ เกิดและค่อยๆเติบโตขึ้น สภาพแวดล้อมและสังคมที่เจอในวัยเด็กจะค่อยๆหล่อหลอมนิสัยนิสัยของพวกเขาให้เติบโตแตกต่างกัน หรืออาจจะต่างจากที่คุณพ่อคุณแม่คิดไว้เลยก็ได้ ดังนั้นการเลือกโรงเรียนตอนเด็กจึงไม่ใช่อะไรก็ได้อีกต่อไป แต่เราอาจต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆด้วย 🚗ระยะทาง คงไม่คุ้มกันเลยใช่มั้ยคะที่ลูกต้องตื่นเช้าออกจากบ้านกันตั้งแต่6โมง นั่งอยู่บนรถอีก2 ชั่วโมง ก่อนถึงรร. และไหนคุณพ่อคุณแม่จะต้องรีบออกจากที่ทำงานบึ่งรถมารับลูกที่รร. และกลับมาบ้านอีก เด็กบางคนอยู่นอกบ้านนานถึง 12ชั่วโมงเลยก็มี ความเหนื่อยล้าทางกายที่ได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ บวกกับทางจิตใจ ที่อาจต้องนั่งรอพ่อแม่หลังเลิกเรียนนานกว่าจะมารับ ในขณะที่เพื่อนๆทะยอยกลับบ้านกันไปหมดแล้วนั้น ส่งผลต่อความคิดและอารมณ์ของเด็กได้ 💰การเงิน โรงเรียนที่ดีไม่จำเป็นต้องเเพงเสมอไป เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินเกินตัวเพราะต้องการซื้อสังคมดีๆ สภาพแวดล้อมดีๆ เกินกำลังตัวเอง โรงเรียนระดับกลางที่มีคุณภาพก็สามารถผลิต นักเรียนดีๆออกมาได้เช่นกัน การลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ อาจนำไปเพิ่มเติมในส่วนของการเรียนเสริมเพิ่มทักษะอื่นๆ ที่เด็กสนใจก็ได้นะคะ 🏫สภาพแวดล้อม สิ่งปลูกสร้างและธรรมชาติควรอยู่ในสัดส่วนที่สมดุลกัน เด็กๆควรมีโอกาสได้เรียนรู้ผ่านประสาท สัมผัส จากทั้งในและนอกห้องเรียน ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีบุคลากรดูเเลอย่างทั่วถึง เช่นสนามเด็กเล่นที่ปลอดภัยและเเข็งเเรง ต้นไม้ที่ปลูกในส่วนของสถานศึกษาต้องไม่เป็นอันตรายเช่นมีหนามคม ต้นไม้สูงที่ให้ผลใหญ่หล่นง่าย หรือหญ้ารกที่เสี่ยงต่อการเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของลูก💗